Archive

Archive for กันยายน, 2010

แหม่ม-วิชุดา โดนทุบรถโขมยเงิน

กันยายน 25, 2010 ใส่ความเห็น

คนร้ายทุบรถเก๋งดาราสาว “แหม่ม-วิชุดา พินดั้ม” ทุบกระจกรถ ฉกเงินหมื่น


วันที่ 23 ก.ย. 53 ร.ต.ต.ศิริพงษ์ รังสูงเนิน ร้อยเวร สน.บางซื่อ รับแจ้งจาก น.ส.วิชุดา พยัคฆ์เพศหรือแหม่ม วิชุดา พินดั้ม อายุ 33 ปี ดารานักแสดงชื่อดังว่า ถูกคนร้ายทุบกระจกรถได้รับความเสียหาย บริเวณข้างร้านพีเอช 1 บี คอฟฟี่บาร์ กลางซอยพหลโยธิน 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน ฉต 1503 กรุงเทมหานคร สภาพบริเวณกระจกด้านขวาหลังคนขับมีรอยถูกทุบแตกละเอียด

จากการสอบสวน น.ส.วิชุดา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมารับประทานอาหาร พร้อมกับเพื่อนสาวหลายคนที่ร้านดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 20.00 น. กระทั่งเวลา 22.00 น. หลังรับประทานอาหารเสร็จ จึงเดินทางออกมาจากร้าน เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงที่รถก็ต้องตกใจ พบว่ากระจกประตูหลังด้านคนขับถูกทุบแตก เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถ พบว่ากระเป๋าหิ้วมูลค่าเกือบ 5,000 บาท หายไป ภายในมีแว่นตายี่ห้อแชลแนล ราคา 6,900 บาท กระเป๋าใบเล็กใส่สตางค์ แฟ้มใส่เอกสาร สมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ รวม 5 เล่ม รวมทรัพย์สินที่สูญหายไปประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท

ด้าน ร.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะเร่งทำการสอบสวนพยานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

หนุ่มเทศบาลโรคจิต ขโมยกางเกงในสูดดมสำเร็จความใคร่

กันยายน 24, 2010 ใส่ความเห็น

หนุ่มเทศบาลโรคจิต ขโมยกางเกงในสูดดมสำเร็จความใคร่

16 ก.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า  ร.ต.อ.จีรภาส ศักดิ์สูง รอง สว.สส.สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมพวกร่วมกันจับ นายมงคล ราวิชัย อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมของกลางเป็นเสื้อกันฝนแบบมีที่คลุมศีรษะสีชมพู ข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานยามวิกาล

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่งว่า กางเกงในของลูกสาวที่ตากไว้ที่ราวตากผ้าหน้าบ้านได้หายไป โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายมงคล จากเบาะแสที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จึงเข้าจับกุมนายมงคลได้ภายในบ้านพักขณะนอนหลับ

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

ขนส่ง’ฝันดึง RFID ลดจราจรติดขัด

กันยายน 24, 2010 ใส่ความเห็น

‘ขนส่ง’ฝันดึง RFID ลดจราจรติดขัด

นายนำโชค โสมาภา ขณะอธิบายการทำงานของ EPS (Electronic Parking System)

จุด EPS สำหรับเข้าสู่สถานที่จอดรถ

ป้าย ERP ที่ติดตั้งอยู่ตามถนนต่างๆ

ลักษณะการทำงานคือ จะอ่านค่าระหว่างที่รถยนตร์วิ่งผ่าน

IUs (ERP In-Vehical Units) ตัวติดตั้งใน RFID ในรถยนตร์

หลังเริ่มโครงการ ‘SMART RFID’ เพื่อเปลี่ยนระบบการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกเตรียมขายฝันใช้เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) จัดการปัญหาการจราจร รถหาย อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ หวังผู้ขับขี่ติดตั้งระบบทุกรายในอนาคต นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กำลังผลักดันให้รัฐ ได้รับรู้เกี่ยวกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนในปี พ.ศ.2554-2563 ที่สหประชาชาติได้เสนอออกมาในชื่อปฏิญญามอสโกเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของไทย และพัฒนาระบบการเดินทางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น “เราเริ่มโครงการขับขี่ปลอดภัยมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแล้ว ทำให้การเตรียมตัวเพื่อตอบรับปฏิญญามอสโกที่ทางสหประชาชาติได้กำหนดมานั้น ทำได้แน่นอน ซึ่งเชื่อว่าการนำเทคโนโลยี RFID เข้ามาใช้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้มากขึ้นด้วย” โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้บริษัท กลกร จำกัด เป็นผู้ลงทุนพัฒนาระบบ และติดตั้งเครื่องอ่าน RFID ซึ่งกำหนดว่าในเฟสแรกจะทำการติดตั้งทั้งหมด 450 จุด ตามถนนสายหลัก ทางหลวงจังหวัด ให้ทันภายในเวลา 1 ปีที่รับมอบหมาย ซึ่งกำหนดอยู่ที่ กันยายน 2554 และถ้าจะให้ครอบคลุมทั่วประเทศต้องมีติดตั้งไม่ต่ำกว่า 1,000 จุด นายนำโชค โสมาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ Smart RFID กล่าวว่า การนำเทคโนโลยี RFID มาใช้ไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อการติดตามรถหายเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบริการอื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บค่าผ่านทาง ค่าที่จอดรถ ลดปัญหาการจราจรในบางพื้นที่ “เบื้องต้นการนำเทคโนโลยี RFID มาใช้ในประเทศไทย เริ่มจากการเข้ามาช่วยการเสียภาษีรูปแบบใหม่ ติดตามรถหายจากเครื่องอ่าน RFID ตามทางหลวงทั้ง 450 จุดแล้ว ปัจจุบันทางห้างสรรพสินค้าหลายๆ แห่งก็ได้มีติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปปรับใช้ให้กับประชาชน” ซึ่งรูปแบบการดำเนินการเพื่อให้เกิดการบูรณาการใช้งาน RFID คือทาง กรมการขนส่ง จะแนะนำให้บริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ไปลงทุนพัฒนาในแต่ละภาคส่วน ทำให้ไม่จำเป็นต้องรอภาครัฐมาร่วมลงทุนด้วย “ระบบ RFID เป็นระบบที่อยู่บนมาตรฐานเปิด ทำให้สามารถดึงทั้งภาครัฐและเอกชนให้มาลงทุน และทำการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบได้ทันที ซึ่งถ้าจะให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องให้ทางภาครัฐออกเป็นนโยบายของทางกรมการขนส่งฯ เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าร่วมโครงการดังกล่าว” นายนำโชคยังได้ยกตัวอย่างการทำงานของ RFID ในประเทศสิงคโปร์ ที่ทางสำนักงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (LTA : Land Transport Authority) ที่มีการวางแผนระบบการขนส่งในประเทศแบบรวมศูนย์ ให้ส่วนกลางเป็นผู้ควบคุมทั้งหมด และรายได้ที่เกิดจากการขนส่งจะเข้าไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อนำไปบริหารประเทศต่อไป ระบบข้อมูลที่สำนักงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ใช้ คือ ระบบขนส่งอัจฉริยะ (ITS : Intelligent Transport System) ซึ่งใช้ควบคุมการจราจรบนทางด่วน สัญญาณไฟจราจร และกล้องวงจรปิดบนทางแยกที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามการจราจรและเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ ดร. ชินเคียนคาง ผู้อำนวยการกลุ่มงานด้านระบบขนส่งทางถนนและบริหารกลุ่มพันธมิตร กล่าวว่า เนื่องจากการขนส่งมวลชนสิงคโปร์มีสถานที่จำกัด ทำให้ต้องมีการจัดการเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้บนท้องถนนไม่ให้เกิดการจราจรติดขัดมากเกินไป เช่น การเก็บค่าผ่านมา ป้ายจราจรอัจฉริยะ เป็นต้น “เราเริ่มเก็บเงินผู้ใช้ถนนในเขตธุรกิจใจกลางเมืองมาตั้งแต่ปี 1975 ซึ่งในระยะเริ่มต้นใช้เป็นตู้เก็บเงินตามปกติ และเริ่มพัฒนามาใช้ระบบ RFID ในปี 1995 โดยใช้งบลงทุนเพื่อติดตั้งเครื่องอ่านทั่วเมืองและการทำระบบต่างๆ ราว 200-300 ล้านเหรียญสิงคโปร์” หลังจากเปิดใช้บริการ RFID จึงได้มีการจัดเก็บเงินเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ทางพิเศษ จากระบบที่เรียกว่า ERP (Electronic Road Pricing System) โดยผู้ใช้รถในสิงคโปร์รัฐได้ออกกฎหมายว่าต้องมีการติดตั้ง RFID ภายในรถยนต์ทุกคัน “การติดตั้ง ERP จะใช้ควบคุมทั้งเรื่องของความเร็วเนื่องจากสามารถคำนวนได้ว่าเมื่อรถผ่านจุดแรกไปยังจุดต่อไปใช้เวลาเท่าไหร่ ถ้าเร็วกว่าที่กำหนดก็ถือว่าขับรถเร็วเกินกำหนด ก็จะส่งใบสั่งไปยังที่อยู่ของ RFID นั้นๆ และยังสามารถลดปริมาณการใช้รถในเวลาเร่งด่วนได้ เนื่องจากการผ่านถนนที่เป็นเส้นสำคัญๆ ในเวลาเร่งด่วนคือราวๆ 7.30 – 8.00 น. จะมีอัตราค่าบริการสูงกว่าปกติ” นอกจากการเก็บค่าผ่านทางแล้ว สิงคโปร์ยังได้นำ RFID ไปใช้เพื่อระบุจำนวนรถในแต่ละพื้นที่ สถานที่จอดรถตามอาคารต่างๆภายในเมืองว่ามีพื้นที่ว่างจำนวนเท่าใด ซึ่งจะแสดงผลผ่านป้ายอัจฉริยะและเว็บไซต์ให้สามารถเข้าไปหาข้อมูลก่อนเดินทางได้จริง ขณะเดียวกันระบบ ITS ยังสามารถใช้ควบคุมสัญญาณไฟ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ จากการคำนวณปริมาณรถ ปรับสัญญาณไฟจราจรให้ระบายรถได้ต่อเนื่อง และกล้องวงจรปิดที่ติดไว้เพื่อใช้เก็บข้อมูลตามท้องถนน ยังสามารถนำมาใช้รักษาความปลอดภัยให้กับประชากรในประเทศได้ด้วย นายชัยรัตน์ ให้ความเห็นว่าการนำมาประยุกต์ใช้จำเป็นต้องให้รัฐบังคับใช้ และออกนโยบายออกมาเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตาม ถ้าให้เอกชนทำก็จะไม่ค่อยมีความชัดเจนเหมือนปัจจุบัน “ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่รัฐต้องลงทุน แม้ว่าจะต้องลงทุนเยอะ แต่เชื่อว่าจะคุ้มค่าสำหรับประชาชน โดยเป็นการนำเสนอโครงการให้กรมไปทำอะไร กรมป้องกันฯ ไปทำอะไร รัฐบาลไปทำอะไร เพื่อให้รัฐเสนอนโยบาย เพราะกรมอย่างเดียวไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากงบประมาณกรมมีน้อยมาก”

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

รวบแล้วหนุ่มเมืองเบียร์ริเป็นโจรเจาะตู้เอทีเอ็ม

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

รวบแล้วหนุ่มเมืองเบียร์ริเป็นโจรเจาะตู้เอทีเอ็ม

 

หนุ่มเยอรมันหาเงินกลับบ้าน ดูลาดเลาได้ 3 วันก่อนมาก่อเหตุ ตำรวจหนองบัวลำภูตามเบาะแสทะเบียนรถต้องสงสัย ตามไปตรวจสอบพบ จนท.กลับวิ่งหนี รับสารภาพลงมือคนเดียว…


เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ก.ย.2553 พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผู้กำกับการ สภ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นำหมายจับศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ จ.179/2553 ลงวันที่ 21 ก.ย.2553 เข้าแจ้งข้อกล่าวหากับ นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ อายุ 28 ปี ชาวเมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด

ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู กล่าวว่า พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองบัวลำภู ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายและประสานข้อมูลกับฝ่ายต่าง ๆ และจัดกำลังติดตามสืบสวนสอบสวน กรณีคนร้ายบุกเข้าไปใช้เครื่องตัดเหล็กเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านไทยเจริญยามาฮ่าสแควร์ ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป โดยในที่เกิดเหตุคนร้ายได้ทิ้งอุปกรณ์ในการก่อเหตุ และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้

พ.ต.อ.กิตติรัชต์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจมุ่งเป้าไปที่คนร้าย ที่มีลักษณะเดินเหมือนคนขาเป๋ หรือ คล้ายคนเป็นโปลิโอ แต่จากการตรวจสอบรูปพรรณรถกระบะ 4 ประตู สีน้ำเงินเข้มหรือดำที่มีพยานเห็นว่า จอดซุ่มในจุดที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทาง เข้าออก และสามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้ ตำรวจจึงได้ออกไปตรวจสอบ โดยช่วงเย็นวันที่ 21 กันยายน 2553 ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นฤชิต โลนะลุ สวป. ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งใน หมู่บ้านม่วงแก้ว ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ที่เป็นผู้ครอบครองรถคันต้องสงสัยดังกล่าว

ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู กล่าวต่อว่า เมื่อตำรวจไปถึงปรากฏว่ามีชาวต่างชาติได้วิ่งออกจากบ้าน เป็นที่น่าสงสัยจึงเรียกให้คนในบ้านไปนำตัวมา พบและเชิญไปสอบปากคำ ทราบชื่อคือ นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ ชาวเยอรมัน แต่เนื่องจากไม่สามารถพูดคุยกันได้ จึงได้เชิญตัวมาที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมประสานตำรวจท่องเที่ยวหาล่ามมาช่วยแปล มี นายเฟรดดี้ เอปเนอร์ ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และ ด.ต.ปรีดา มิสาธรรม ผบ.หมู่ สทท.5 กก.3 จ.อุดรธานี มาร่วมสอบถาม ทั้งนี้นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง และทำเพียงคนเดียว

พ.ต.อ. กิตติรัชต์ กล่าอีกว่า สาเหตุที่ก่อเหตุลงไปเพราะต้องการหาเงินเป็นค่าเดินทางกลับประเทศเยอรมนี หลังจากที่ได้เดินทางมาหาแฟนสาวคนไทย ที่บ้านม่วงแก้ว อ.ศรีบุญเรือง เมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน ที่เป็นคนที่รู้จักรักใคร่ชอบพอกันมาประมาณ 2 ปีก่อนที่ประเทศเยอรมนี พอมาอยู่ที่ประเทศไทยใช้จ่ายเงินจนหมด จึงคิดหาเงินและไปพบตู้เอทีเอ็มที่ร้านดังกล่าวมีลักษณะง่ายต่อการโจรกรรม โดยตนเองก็มีหน้าที่การงานเป็นช่างรื้ออาคารบ้านเรือนในประเทศเยอรมนี จึงมีความรู้ด้านช่าง ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 สัปดาห์ ก็ได้ไปซื้อเครื่องตัดเหล็กที่ตลาดนัด หวังตั้งใจจะเอามาใช้ซ่อมแซมบ้านให้แฟน

ด้าน นายปีเตอร์มันน์ กล่าวรับสารภาพว่า วันก่อเหตุก็ได้ใส่ท้ายรถกระบะ นิสสัน 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กง 7710 อุดรธานี คลุมผ้าขับมาที่ร้านเกิดเหตุ ลองทุบประตูหน้าร้าน เพื่อตรวจสอบว่ามีคนอยู่ในร้านหรือปล่าว เมื่อเห็นว่าเงียบไม่มีเสียงคนอยู่ จึงให้แฟนขับไปจอดบริเวณหลังร้าน จากนั้นตนก็ลงไปเอาเครื่องตัดเหล็กลงมา และบอกให้แฟนขับรถออกไป ก่อนจะลงมือปีนรั้วบ้านขึ้นไปตัดช่องลูกกรงเข้าไป และใช้เชือกไนล่อนชักเครื่องตัดเหล็กบุกเข้าไปในร้าน จากนั้นก็ใช้เครื่องตัดเหล็กเจาะตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่าเจาะได้สักพักก๊าซออกซิเจนในถังหมด ทำให้ตัดเจาะไม่ได้ จึงทิ้งเครื่องมือ และเดินออกไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเพื่อหาของมีค่า แต่ไม่มีจึงได้หลบหนีออกมาทางเดิม และโทรศัพท์เรียกให้แฟนขับรถมารับ


ผู้ ต้องหา กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ต้องก่อเหตุ เพราะต้องการหาเงินเป็นค่าเดินทางกลับประเทศ เยอรมัน เพราะเงินที่เก็บสะสมเดินทางมาหาแฟนสาวใช้จ่ายไปหมดแล้ว และตนเองก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว แฟนของตนไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำนายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ และแฟนสาวโดยเบื้องต้นตำรวจได้กันแฟนสาวของนายอัลแบโตฯ เป็นพยาน นอกจากนี้ตำรวจยังติดตามไปเก็บหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบคดีรวมทั้งเสื้อผ้ารองเท้าที่ใส่ก่อเหตุด้วย

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

ตร.พิษณุโลก เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และ CCTV กว่า 19 จุด หวัง รวบแก๊งซิ่งกราดยิงชาวบ้าน ดับ เบื้องต้น เชื่อ เป็นแก๊งวัยรุ่นคะนอง

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

ความคืบหน้า การสืบสวนจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ ที่ก่อเหตุอุกอาจ กราดยิงประชาชนที่ขี่รถจักรยานยนต์ บนถนนพิษณุโลก-สุโขทัย ในจังหวัดพิษณุโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 4 คน พ.ต.อ.ประเสริฐ กาฬรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพิษณุโลก กล่าวว่า ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมกับ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและกล้อง CCTV ที่อยู่บริเวณทางแยก ทั้ง 19 จุด ในเขตเมืองพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนจับกุมแก๊งรถซิ่ง และมือปืนที่ก่อเหตุ เบื้องต้น เชื่อว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง ที่เคยถูกปราบปรามจับกุมอย่างหนักก่อนหน้านี้ จังหวัดพิษณุโลก มีแก๊งรถจักรยานยนต์ซิ่ง กว่า 10 กลุ่ม ซึ่งต้องกวดขันปราบปรามให้หมดสิ้นไปจากท้องถนนโดยเร็ว

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

นิสิต ม.บูรพา วิงวอนขอเพิ่มกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยง ด้าน รปภ. ย้ำบริษัทรับเหมาติดตั้งกล้องหมั่นตรวจเช็คคุณภาพ

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

กล้องวงจรปิดม.บูรพามีน้อย นิสิตหวั่นโจรกรรม

 สืบเนื่องจากกรณีข่าวการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในมหาวิทยาลัยบูรพา อันเกิดจากกล้องวงจรปิดของมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำงานได้ ก่อให้เกิดความเสียหายทางด้านทรัพย์สินของนิสิตและบุคลากร

นางสาวชลธิกา  บุญก่อเกื้อ นิสิตเอกดนตรีสากล คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ตนเป็นผู้ที่ต้องจอดรถไว้ที่คณะในเวลากลางคืนเพราะต้องซ้อมดนตรีจนดึก รู้สึกว่ากล้องวงจรปิดไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อจำนวนรถของนิสิตที่มีจำนวนมาก สามารถเกิดการโจรกรรมได้ง่าย นอกจากนี้บางจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถจับภาพได้ ทำให้มีโจรแอบแฝงตัวเข้ามาในมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อดำเนินการขโมยรถในจุดเสี่ยงหรือที่ลับตาคน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดและพนักงานรักษาความปลอดภัยที่คอยดูแลอย่างทั่วถึง

นางสาวปรียาภรณ์  เสาวลักษณ์อักษร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า การที่รถจักรยานยนต์ของนิสิตหายเป็นประจำ น่าจะมีสาเหตุมากจากกล้องวงจรปิดน้อยเกินไป บางจุดเป็นที่ลับตาคน เวลาจอดรถก็ต้องระวัง เพราะถ้าเกดการสูญหายขึ้นมาก็ขาดหลักฐานในการเอาผิดหรือจับตัวคนร้าย ซึ่งเพื่อนก็เคยทำรถจักรยานยนต์หายในบริเวณสนามกีฬาซึ่งไม่สามารถเรียกร้องกับใครได้ เนื่องจากไม่มีกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้าย จึงอยากเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยดำเนินการติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อความ ปลอดภัยในทรัพย์สินของนิสิต

นายอั้น แสงทอง พนักงานรักษาความปลอดภัยบริเวณประตูสายใหม่ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า กล้องวงจรปิดบริเวณนี้ใช้การไม่ได้ประมาณ ๒ เดือนแล้ว ซึ่งกล้องไม่ได้ชำรุดแต่สายไฟนั้นถูกตัดไป เนื่องจากมีการก่อสร้างตึกคณะแพทย์ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ใช้ประโยชน์จากกล้องวงจรปิด แต่ก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบกลับมาว่ารอให้ก่อสร้างตึกคณะแพทย์เสร็จก่อนจึงค่อยมาเดินสายไฟใหม่ให้

นายอั้น กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลาที่มีคนมาขอดูเทปบันทึกก็มองไม่ชัดเจนนัก เพราะมีแสงไฟจ้าและมุมกล้องต่ำกว่าปกติ ซึ่งคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรรีบมาปรับมุมกล้องให้สูงขึ้นเพื่อให้เห็นในระยะไกลมากขึ้น

ส.ต.ประสิทธิ์ เผือดผ่อง พนักงานรักษาความปลอดภัยบริเวณวิทยาลัยนานาชาติ อาคารศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า กล้องวงจรปิดที่อาคารเรียนนี้ใช้งานได้ตามปกติ เคยมีกรณีนักศึกษาลืมโน้ตบุ๊กไว้หน้าคณะแล้วเพื่อนเก็บไว้ให้โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบคิดว่าหายไปแล้ว ก็สามารถตามเจอได้ โดยดูจากเทปบันทึกของกล้องวงจรปิดนี้ ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์มากเลยสำหรับสถานศึกษา

“คิดว่าบริษัทที่ได้รับประมูลทำเรื่องติดตั้งกล้องวงจรปิดให้มหาวิทยาลัยบูรพานั้น ควรใช้กล้องที่มีคุณภาพมากกว่านี้ และหมั่นมาตรวจสภาพกล้อง เพราะเมื่อใช้ในระยะเวลาที่ยาวนานย่อมมีการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้เวลาที่พนักงานรักษาความปลอดภัยแจ้งเสียไป ก็ควรรีบมาซ่อมแซม ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้หลายๆ วัน” ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าว.
กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

คลิปนายพลสีกากีเล่น จ้ำจี้ตำรวจชั้นประทวนสาวหน้าห้อง

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

คลิปตำรวจฉาว ผู้บังคับการตำรวจจ้ำจี้ตำรวจสาว ฮือฮา…คลิปนายพลสีกากีเล่น จ้ำจี้ตำรวจชั้นประทวนสาวหน้าห้อง ถูกแพร่ในอินเทอร์เน็ต จนเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ระบุ นายตำรวจในคลิปฉาวเป็นถึงผู้บังคับการจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ขณะที่เรื่องฉาวครั้งนี้ ผบ.ตร. อาจมีการสั่งสำรองราชการนายตำรวจคนดังกล่าวไว้ก่อน วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคลิปนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ขณะกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตำรวจชั้นประทวนหญิงหน้าห้องเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จากการตรวจสอบคลิปดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะคล้ายภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเป็นนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ได้เรียกตำรวจชั้นประทวนหญิงหน้าห้องเข้ามาในห้องทำงาน ก่อนที่จะมีการกอดจูบ จากนั้นทั้งคู่ได้เข้าไปในห้องน้ำภายในห้องทำงาน ก่อนกลับออกมาในสภาพที่ พล.ต.ต.คนดังกล่าวไม่สวมเสื้อนอก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังกลายเป็นข่าวจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง ความไม่เหมาะสมทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.อาจมีการสั่งสำรองราชการนายตำรวจคนดังกล่าวเอาไว้ก่อน 1ภาพจากกล้องวงจรปิด 2 ภาพจากกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

ล่าไอ้โม่งขาเป๋เจาะเอทีเอ็มกรุงไทยใส่เงิน 3.5

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

เจาะเอทีเอ็มกรุงไทย ไอ้โม่งขาเป๋เย้ยกฎหมาย ใช้แก๊สเจาะตู้ ATM แบงก์กรุงไทย ตั้งกลางเมืองหนองบัวลำภู แต่นำเงิน 3.5 ล้านไปไม่ได้ ตร.คาดยังมีเพื่อนร่วมทีม… เหตุการณ์คนร้ายลงมือเจาะตู้เอทีเอ็ม แต่นำเงินสดกว่า 3 ล้านบาทไปไม่ได้ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 ก.ย. พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู และ พ.ต.ท.ภควัต บงแก้ว สารวัตรเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่หน้าร้านไทยเจริญยามาฮ่าแสคว์ เลขที่ 210 หมู่ 2 ถนนวิไสยอุดรกิจ เขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู ที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็มตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าร้านถูกคนร้ายตัดเหล็กลูกกรงโกดังหลังร้านเข้าไปใช้เครื่องตัดแก๊สเจาะฝาด้านข้างตู้เอทีเอ็ม เป็นรอยกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร ใกล้กันมีอุปกรณ์ตัดแก๊สถูกทิ้งเอาไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบคนร้ายไม่สามารถนำเงินในตู้เอทีเอ็ม ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3.5 ล้านบาทไปได้ ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุสัญญาณเตือนภัยได้แจ้งเหตุไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุที่ จ.อุดรธานี ระบุเวลา 02.18 น. วันที่ 21 ก.ย. นอกจากนั้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายเป็นชายสูงประ มาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้า และสวมถุงมือ ลักษณะการเดินเหมือนคนขาไม่ดี เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่า จะมีมากกว่า 1 คน ซึ่งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

แก๊งต่างชาติบุกร้านคอมฯเชิดเงินสด

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

แก๊งต่างชาติบุกร้านคอมฯ ชิงเงิน

แก๊งต่างชาติบุกร้านคอมฯเชิดเงินสดและทองคํามูลค่านับแสนบาท 

นางสาวสุจินดา โพธิ์เงิน อายุ 25 ปี เจ้าของร้าน ที.เอส. คอมพิวเตอร์ แอนด์แอ็คเวสโซรี่ ขายเครื่องและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าซันนี่ รอยัลพาร์ค ช็อปปิ้งมอลล์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกแก๊ง 18 มงกุฎซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ลักษณะเป็นแขกขาว รูปร่างอ้วน พาภรรยาซึ่งเป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี โดยอุ้มลูกน้อยมาด้วย และพูดภาษาอังกฤษ ทําทีเข้ามาซื้อของภายในร้านราคา 120 บาท โดยให้ธนบัตรฉบับใบละ 1,000 บาท 

เมื่อตนนำเงินทอนให้ แก๊งต่างชาติซึ่งเป็นผู้หญิงได้เรียกเด็กในร้านออกไปช่วยดูของที่หน้าร้าน ส่วนชายต่างชาติจากนั้นได้ใช้วิธีหลอกล่อขอแลกเงินเป็นธนบัตรใบ 1,000 และใบละ 500 บาท เป็นธนบัตรใบละ 100 บาท ช่วงจังหวะที่เจ้าของร้านกําลังนับเงินให้ปรากฏว่า แก๊งคนร้าย ได้พยายามพูดจาภาษาอังกฤษพร้อมกับสะกิดที่บริเวณแขน 2-3ครั้ง จนทําให้ตนเองรู้สึกงงและเมื่อหยิบเงินขึ้นมาทางแก๊งคนร้ายก็พยายามที่จะนำไปนับ 2-3 ครั้ง และเอื้อมมือมาหยิบเงินในกระเป๋าไปนับเอง แต่ก็คืนให้ ซึ่งขณะนั้นก็รู้สึกว่างง ไม่เข้าใจว่าจะให้ทำอะไรกันแน่ 

จากนั้นแก๊งคนร้ายก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้ดูพร้อมกับบอกว่าจะนำไปซ่อมขอให้ช่วยพาไปที่ร้านซ่อมแต่ตอนนั้นรู้สึกว่าตนเองปวดหัว และมึนงง จึงปฎิเสธไป แต่แก๊งคนร้ายก้พยายามที่จะชวนไป และเมื่อเห้นว่าไม่ยอมไปด้วยแน่จึงได้เดินออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อตั้งสติได้ก็รีบนับเงินที่ทางแก๊งคนร้ายนับคืนมาให้ก้พบว่าเงินไป 45,000 บาท จากทั้งหมด 60,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เตรียมไว้สำหรับจ่ายค่าเช่าร้านและค่าผ่อนรถยนต์ พร้อมกับสร้อยคอทองคํา 2 บาท 1 เส้น แหวนเพชร 1 วง และแหวนพลอยเขียว 2 วง มูลค่ากว่า 200,000 บาท ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงเดียวกันหายไปด้วย จึงได้เรียกให้ทางเด็กที่ขายของภายในร้านช่วยออกไปดูก็ไม่เจอแก๊งคนร้ายแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อข่วยติดตาม

จากนั้นได้นําภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางร้านได้บันทึกไว้แก๊งค์ดังกล่าวไว้ได้อย่าง นําไปแจ้งความเพื่อติดตามมาดําเนินคดี และพบว่าการกระทำของแก๊งคนร้ายรายนี้น่าจะมีความชำนาญในการทำการลักทรัพย์ลักษณะนี้ เพราะในช่วงที่นับเงินแล้วส่งคืนให้กับทางเจ้าของเงินนั้นส่วนหนึ่งจะดึงไว้อีกมือหนึ่งใช้เวลารวดเร็วมากถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้เลยว่าเงินหายไป ซึ่งตนได้เข้าต้องเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ไพโรจน์ บุญยินดี ร้อยเวร สภ. เมืองราชบุรี แล้วพร้อมกับให้รางวัลผู้ที่ชี้เบาะแสของคนร้ายจนถุกนำไปสู่การจับกุมได้จำนวน 10,000 บาท 

และขอให้ทางผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ที่นำเงินสดติดตัวมากๆให้ระวังแก็งต่างชาติรายนี้ด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน ขณะที่นายสุนันท์ โอชะขจร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ประจําจังหวัดราชบุรี นําเงินไปฝากที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาเขาวังราชบุรี และมีชาวต่างชาติเข้ามาทําทีมาขอนับเงินให้จากนั้นส่งกลับคืนแต่เงินไม่ครบหายไปกว่า 40,000 บาท มารู้อีกครั้งเมื่อแก๊งคนดังกล่าวหลบหนีไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแก็งเดียวด้วย 

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized

คนร้ายบุกเข้าโจรกรรมทรัพย์สินภายในสถาบันกวดวิชา ย่านสยามสแควร์ ตำรวจเชื่อคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุมาแล้วที่สยามสแควร์ซอย 6

กันยายน 22, 2010 ใส่ความเห็น

  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ก.ย.53 ร.ต.ท.ก่อเกียรติ บุญปลอด ร้อยเวร สน.ปทุมวัน รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในสถาบันกวดวิชาออนดีมานด์ สาขาสยามสแควร์ เลขที่ 392/27-28 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

 ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิช 4 ชั้น  โดยเปิดเป็นสถาบันสำหรับกวดวิชา สาย วิทย์ ให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.5-ม.6 เพื่อสอบเข้าเรียนต่อ ในระดับมัธยม และมหาวิทยาลัยต่อไป ซึ่งมีนายสุธี อัศวะวิมล เป็นผู้บริหาร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเซิฟเวอร์คอมพิวเตอร์ถูกโจรกรรมหายไปหลายตัว เบื้องต้นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ส่วนความเสียหายเหลือต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

 ร.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า ตามที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้พบว่าคนร้ายเป็นชายบุกเข้ามาก่อเหตุเพียงคนเดียว เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ และมีความรู้เรื่องคอมพ์เป็นอย่างดี โดย ใช้มีดเจาะเข้ามาทางฝาแผ่นยิปซัมเพดานบนชั้น 2 ภายในส่วนของห้องน้ำจากนั้นก็ตัดสายสัญญาณกันขโมยก่อนเข้าไปรื้อค้นภายในห้องเรียนชั้น 4 ที่มีคอมพิวเตอร์หลาย 10 เครื่องอย่างใจเย็นทั้งยังเข้าออกรื้อค้นตามห้องต่างอีกทุกชั้นโดยใช้เวลานับชั่วโมงก่อนจะทุบกระจกห้องน้ำชั้น 2 เพื่อออกจากที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป

 เบื้องต้นจากการตรวจสอบของฝ่ายสืบสวนพบว่าพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ น่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินภายในสยามสแควร์ซอย 6 มาแล้ว เชื่อว่าทรัพย์สินที่ได้คนร้ายจะนำไปขายต่อตามตลาดคลองถม หรือขายตามตลาดชื้อ-ขายของมือ 2 ต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่ติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด

กล้องวงจรปิด , CCTV
ที่มา : http://bkkcctv.wordpress.com

หมวดหมู่:Uncategorized