Archive

Archive for ตุลาคม, 2010

แก็งปล่อยเงินกู้โหด

ตุลาคม 30, 2010 ใส่ความเห็น
แก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ที่เชียงใหม่ เก็บเงินลูกค้าไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ลูกหนี้จนประชาชนแตกตื่น ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ตำรวจเข้าตรวจสอบ บริเวณหน้าหอพัก พีระพงษ์ ย่านชุมชนสันติธรรม ในตัว เมืองเชียงใหม่ หลังคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงข่มขู่เข้าไปในบริเวณหอพักจำนวนหลายนัด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทาง 5 แยกสันติธรรม สอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 20 ได้มาเก็บเงินลูกหนี้ ที่พัก อาศัยในหอพักดังกล่าว แต่เก็บเงินไม่ได้และโต้เถียงกัน ก่อนใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ข่มขู่ไป หลายนัด จนลูกหนี้และประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพากันตกใจแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น ซึ่งกล้องวงจรปิดของทางหอพักสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ลักษณะผู้ก่อเหตุ เป็นชายสองคน ขี่รถจักรยานยนต์ขนาด 150 ซีซี สีแดง คนขี่สวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมชุด ดำทั้งชุด ส่วนคนซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีออกฟ้า ซึ่งตำรวจกำลัง เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมาย
สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด แต่ละวันจะ ตระเวณไปตามร้านค้า แผงลอย หรือตลาดสด เพื่อปล่อยเงินกู้ เก็บดอกเบี้ยพร้อมเงินต้น เป็นรายวัน หากไม่ได้ก็จะข่มขู่ยึดทรัพย์สิน หรือขอลูกสาวเพื่อขัดดอก หรืออาจลงมือ ทำร้ายร่างกาย แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความตำรวจ

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

โหด! แม่อินเดียทิ้งลูกแฝดหญิงลงตึก

ตุลาคม 30, 2010 ใส่ความเห็น

โหด! แม่อินเดียทิ้งลูกแฝดหญิงลงตึก

กล้องวงจรปิดหลักฐานมัดตัว แม่ใจยักษ์โยนลูกแฝดแรกเกิดเพศหญิงออกมาจากหน้าต่างของห้องน้ำโรงพยาบาล เหลือแต่แฝดชาย

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจอินเดียบุกจับกุมแม่ใจยักษ์โยนลูกแฝดแรกเกิดเพศหญิงออกมาจากหน้าต่างของห้องน้ำโรงพยาบาลในนครมุมไบ หลังจากคลอดลูกออกมาเป็นลูกแฝดชายหญิง โดยทารกแฝดหญิงเสียชีวิตด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสที่กะโหลกศีรษะ เมื่อตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า แม่เด็กอุ้มเด็กน้อยเข้าห้องน้ำและออกมาเพียงลำพัง แต่แม่ของเด็กให้การปฏิเสธและอ้างว่า ลูกของตนถูกขโมยไป ตำรวจตั้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก และอาจตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา ด้าน พ่อของเด็ก กล่าวว่า ตนและภรรยาไม่มีปัญหาเรื่องการเลือกเพศลูก

ทั้งนี้ ชาวอินเดียมักนิยมทารกที่เป็นเพศชายมากกว่าหญิง เพราะผู้หญิงนั้นต้องใช้เงินทองในการสู่ขอผู้ชายแต่งงาน บางครอบครัวจึงมองว่า เป็นภาระการเงิน ถ้าเป็นผู้ชายนั้นถือว่าได้กำไร

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

โจรชุม “ปัจจัยบวก” CCTV “พานาโซนิค” ขอแจมตลาด 3,300 ล้าน

ตุลาคม 30, 2010 ใส่ความเห็น

โจรชุม “ปัจจัยบวก” CCTV “พานาโซนิค” ขอแจมตลาด 3,300 ล้าน

ตลาดกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเพื่อให้การบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาค่าย “พานาโซนิค” บิ๊กแบรนด์จากแดนซามูไร จับจองพื้นที่ภายในโรงแรมพูลแมนในยามบ่าย เปิดตัว “i-Pro Smart HD” กล้องซีซีทีวี “เจเนอเรชั่นที่ 3” เทคโนโลยีใหม่ที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น สำหรับตลาดกล้องซีซีทีวีปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ 1) แอนะล็อก ที่เป็นระบบดั้งเดิม และ 2) IP System (Internet Protocal System) ที่เป็นระบบใหม่ ซึ่ง 2 แบบนี้ต่างกันที่ระบบการเดินสายสัญญาณมาสู่เครื่องบันทึกข้อมูล กรณีแบบแอนะล็อกจะต้องเดินสายสัญญาณจากกล้องวงจรปิดทุกตัวเข้าสู่เครื่องบันทึกข้อมูล ต่างจากแบบ IP System ที่เดินสายสัญญาณเข้ามาสู่ระบบ LAN แบบเดียวกับอินเทอร์เน็ต และเชื่อมต่อสายสัญญาณจากกล้องวงจรปิดทุกตัวเหลือเพียงเส้นเดียวเพื่อส่งต่อไปยังเครื่องบันทึกข้อมูล เท่ากับช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินสายสัญญาณ คอนเซ็ปต์ ซื้อรุ่นใหม่ในราคารุ่นเก่า โดยในปีนี้ค่ายพานาโซนิคประเมินว่า ผลิตภัณฑ์กล้องซีซีทีวีน่าจะมีมูลค่าตลาดรวม 3,300 ล้านบาท จากตัวเลขดังกล่าวแม้ว่ากล้องซีซีทีวีระบบ IP System จะมีสัดส่วนในตลาดเพียง 17% แต่ในปีที่ผ่านมาก็มีอัตราเติบโตสูงถึง 40% และน่าจะเพิ่มส่วนแบ่งจากกล้องซีซีทีวีระบบแอนะล็อกได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นำมาสู่การเปิดตัวกล้องซีซีทีวี i-Pro Smart HD เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งพานาโซนิคเคลมว่า สามารถกดราคากล้องต่อจุดได้ใกล้เคียงกับกล้องระบบแอนะล็อก คือไม่เกิน 5,000 บาทต่อจุด ขณะเดียวกันก็มีประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นเพิ่มมากขึ้น จากเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา พานาโซนิคได้เปิดตัวกล้องซีซีทีวีเจเนอเรชั่นที่ 1 ซึ่งใช้การบันทึกข้อมูลเป็นชอต ๆ แบบ “JPEG” (เจเปก) แบบเดียวกับกล้องถ่ายรูปดิจิทัล ข้อเสียคือ ใช้พื้นที่ในการบันทึกข้อมูลเป็นจำนวนมาก เพราะใน 1 วินาทีจะมีการเก็บภาพนิ่งจำนวน 25 เฟรม เฉลี่ยแล้วหาก จัดเก็บภาพเป็นเวลา 30 วัน (ตลอด 24 ชั่วโมง) จะใช้พื้นที่บันทึกข้อมูลมากถึง 3 เทราไบต์ หรือประมาณ 3,000 จิกะไบต์ (3,000 GB) ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พานาโซนิคได้เปิดตัวกล้องซีซีทีวีเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งพัฒนา การบันทึกข้อมูลเป็นแบบ “MPEG 4” (เอ็มเปก 4) ลักษณะเดียวกับการบันทึกภาพวิดีโอ สามารถบีบอัดไฟล์ภาพที่ บันทึกให้มีขนาดเล็กลง และบันทึกภาพในมุมย้อนแสงหรือที่มืดได้ดียิ่งขึ้น เฉลี่ยแล้วหากจัดเก็บภาพเป็นเวลา 30 วัน (ตลอด 24 ชั่วโมง) จะใช้พื้นที่ลดลง เหลือ 0.6 เทราไบต์ หรือประมาณ 600 จิกะไบต์ เวอร์ชั่น 3 เด่นที่ระบบ “สืบค้นภาพ” ล่าสุดคือ กล้องซีซีทีวีเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่บันทึกข้อมูลด้วยเทคโนโลยีใหม่แบบ MPEG 4 H.264 สามารถบีบอัดไฟล์ภาพที่บันทึกให้เล็กลงได้อีก เฉลี่ยแล้วหากจัดเก็บภาพเป็นเวลา 30 วัน (ตลอด 24 ชั่วโมง) จะใช้พื้นที่ลดลงเหลือ 0.3 เทราไบต์ หรือประมาณ 300 จิกะไบต์ และยังมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมคือ ระบบ “ตรวจจับ” ใบหน้าได้พร้อมกัน 8 คน ภายในเฟรมเดียว ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ “สืบค้น” ภาพใบหน้าคนร้ายที่เคยถูกบันทึกไว้ภายในกล้องซีซีทีวี หากมีภาพตรงกันสัญญาณ แจ้งเตือนจะดังขึ้นทันที รวมถึงสามารถปรับสมดุลแสงเพื่อแก้ไขปัญหาการเก็บภาพในจุดย้อนแสงได้ดีมากขึ้น ในมุมของการติดตั้งกล้องซีซีทีวีภายในโครงการบ้านจัดสรร “ราณี สิทธิแก้ว” ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสดูแลสินค้าซีซีทีวี “พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย)” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่มีเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ เบื้องต้นคำนวณว่าน่าจะใช้กล้องซีซีทีวีขั้นต่ำประมาณ 16 ตัว หรือมีค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่าติดตั้งและเดินสายสัญญาณ) ประมาณเกือบ 2 แสนบาท จะคุ้มค่าหรือไม่ ลูกค้าเท่านั้นที่เป็นคนตัดสิน !

ที่มาของข่าว : ประชาชาติธุรกิจ

กล้องวงจรปิด , CCTV


หมวดหมู่:Uncategorized

ล่า3คนร้ายควงอาก้าปล้นเซเว่นฯเมืองกาญจน์

ตุลาคม 27, 2010 ใส่ความเห็น

3 คนร้ายควงอาก้าปล่นเซเว่นกาญจน์ ตร.คาดเป็นลูกน้อง “เหน่ง อาก้า” หัวโจกยาบ้าที่เคยถูกวิสามัญไปแล้ว ขู่ใช้มาตรการเด็ดขาดหากขัดขืนจับกุม…

เหตุ 3 คนโจร ควงปืนอาก้าและปืนลูกโม่เข้าปล้นร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นรายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 26 ต.ค. พ.ต.ท.ประวิตร เที่ยงน่วม พงส.(สบ.3) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าบุกปล้นร้านค้าเซเว่น-อีเลฟเว่น ปากซอยหัวนา หมู่ 10 ต.ปากแพรก จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบพนักงานเซเว่นฯภายในร้าน 2 คน และลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านเป็นชายอีก 1 คน ยืนรออยู่ด้วยท่าทีตื่นตระหนก โดย น.ส.ฐานิตา เดชชาญ อายุ 28 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า ขณะที่ตน และ น.ส.ภาวิณี ทองนุ่ม อายุ 20 ปี พนักงานร้าน กำลังให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้าน ได้มีชาย 3 คน คนแรกสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ใส่กางเกงยีนสีน้ำเงิน สวมรองเท้าผ้าใบ สวมถุงมือผ้าข้างซ้าย สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ สูงประมาณ 175 ซม. มือถือปืนลูกโม่ คนที่สองสวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีเทาแดง สวมกางเกงยีนสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะสีขาวคาดดำ สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ สวมถุงมือผ้าแบบคนตัดอ้อย สูงประมาณ 175 ซม. รูปร่างผอม ใช้อาวุธปืนอาก้าแบบพับฐานมีสายสะพายปืน และคนที่สาม สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีแดง ใส่กางเกงยีนสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะแบบหูไขว้สีขาว ใช้เสื้อสีเหลืองอ่อนโพกศรีษะ รูปร่างผอม สูงประมาณ 165 ซม. ไม่มีอาวุธปืน เดินเข้ามาภายในร้าน จี้บังคับเอาเงินสด จำนวน 5,745 บาท พร้อมไส้กรอกจำนวน 6 แพ็ค ก่อนหลบหนีไป

ขณะที่ นายสุชาติ แซ่เอี้ยว อายุ 65 ปี เจ้าของไร่ผัก ลูกค้าที่เข้ามาในร้านขณะคนร้ายก่อเหตุให้การว่า ตนจะมาซื้อของแต่มาประสบเหตุกับคนร้าย จึงถูกใช้ปืนจี้บังคับเอาเงินในตัวรวม 43,000 บาท ไปด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ได้เรียก พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ สว.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ผ่องเกษม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี เข้าพบที่ห้องทำงาน บก.ภ.จ.กาญจนบุรี โดยมีการนำคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านที่ถูกก่อเหตุ และแฟ้มภาพอาชญากรรมมาประมวลโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

จากนั้น พล.ต.ต.เรวัช กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเท่าที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านเชื่อ ว่าปืนอาก้าที่คนร้ายนำมาปล้นเป็นปืนจริง โดยจากการดูแฟ้มประวัติพบว่า กลุ่มอาชญากรที่ใช้ปืนอาก้าในการก่อเหตุคือ กลุ่มของนายเสกสรรค์ บุญชู อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ฉายา “เหน่ง อาก้า ” หรือ “เหน่ง หนองขาว” หัวหน้าแก๊งยาบ้ารายใหญ่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี หนีมาหลบซ่อนตัว หลังเคยก่อเหตุยิงตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายราย ก่อนจะถูกชุดของตนวิสามัญฯ ที่เขต อ.สังขละบุรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 52 ขณะหลบซ่อนตัวและยิงปะทะกับตำรวจ

โดยจากภาพถ่ายแฟ้มประวัติของชุด “เหน่ง อาก้า” พบว่ามีปืนอาก้ารวม 4 กระบอก แต่ตำรวจยึดมาได้แล้ว 1 กระบอก เหลืออีก 3 กระบอก แล้ว 1 ใน 3 มีลักษณะเหมือนกับปืนอาก้าที่ใช้ก่อเหตุปล้นร้านเซเว่น จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พีระพจน์ พ.ต.ท.เวช และ พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ เข้ามาพบเนื่องจากทั้ง 3 เคยอยู่ในชุดที่เคยติดตามไล่ล่าขบวนการของเหน่งอาก้ามาโดยตลอด เชื่อว่าหลังจาก “เหน่ง อาก้า” หัวโจกถูกวิสามัญฯ ลูกน้องที่เหลือก็กระเด็นกระจายพากันแยกย้ายหลบหนีกบดาน โดยมีการติดตามจับกุมได้อีก 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย มีการฆ่าหักหลังกันเอง เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่มาก่อเหตุ และเคยใช้ปืนอาก้าปล้นปั๊มน้ำมัน ปตท.ที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา และยังเคยก่อเหตุปล้นปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ด้วย ซึ่งคดีนี้ตนได้กำชับหากคนร้ายต่อสู้ให้ใช้มาตรการเด็ดขาดทันที.

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

ผีพนันตื่น!! ตร.พัทยา บุกทลายบ่อนกลางป่าละเมาะ

ตุลาคม 26, 2010 ใส่ความเห็น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาบุกทลายบ่อนไฮโล กลางป่าละเมาะดัดแปลงเพิงพักกันฝน ไฮโซติด กล้องวงจรปิดป้องกันตำรวจ ผีพนันแตกตื่นหนีเอาตัวรอดจ้าละหวั่น สุดท้ายรวบได้กว่า 30 ราย

พัทยา – วานนี้ (23 ต.ค. 53)  เมื่อเวลา 21.00 น.  พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.กฤศกร ทองอินทร์ รอง ผกก. ได้รับการรายงานว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนเล่นการพนันไฮโล ที่บริเวณกลางป่าละเมาะ ภายในซอยพระตำหนักซอย 4 ตรงข้ามโรงแรม เอเชีย ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงได้วางแผนจัดกำลังเข้าจับกุม 

  

ที่เกิดเหตุภายในป่าละเมาะดังกล่าวถูก สร้างดัดแปลงคล้ายเพิงกันฝน และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่บริเวณทางเข้าเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้การตัดสาย กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ จากการเข้าตรวจสอบ พบนักพนันกว่า 40 คน ตั้งวงเล่นการพนันไฮโล กันอย่างเคร่งเครียดและเมามัน  จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อนักพนันเห็นเจ้าหน้าที่ต่างตกใจแตกตื่นวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง และสามารถจับกุมตัวนักพนันได้จำนวน 28 ราย แยกเป็นชาย 23 ราย และหญิง 5 ราย พร้อมยึดของกลางกล้องวงจรปิด 2 ตัว อุปกรณ์การเล่นไฮโล 1 ชุด พัดลม 1 ตัว นาฬิกาปลุก 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวนักพนันทั้งหมดมาสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าบ่อนดังกล่าวมี นายชลินทร์ กันหอม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85  ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ให้การรับเป็นเจ้ามือ  ภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน ไฮโล พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยืดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

  

ด้าน พ.ต.อ. นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบทราบมานานแล้วว่าที่บริเวณดังกล่าวมีการลักลอบเปิดบ่อนเล่นการพนันกันอย่างโจ่งแจ้ง จึงได้ทำการตรวจสอบจนแน่ชัดว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันจริงและยังมีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดไว้คอยดูความเคลื่อนไหวและยังมีคนคอยดูต้นทางให้ จึงได้วางแผนอย่างรัดกุมในการเข้าจับกุมในครั้งนี้

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

รวบ 3 วันรุ่นแก๊งงัดตู้หยอดน้ำดื่ม อ้างทำเลียนแบบตามทีวี รับสารภาพก่อเหตุมาแล้ว 7 ตู้ ในพื้นที่ ตำบลบึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ตุลาคม 26, 2010 ใส่ความเห็น

วันนี้ (25 ต.ค.) พ.ต.ท.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี สวป.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ. เกียรติพงศ์ กมขุนทด รอง สวป . ขณะออกตรวจพื้นที่ได้รับแจ้งจาก นายอุทิศ  ศรีสุข อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 1 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาพบคนร้ายงัดตู้น้ำดื่มบริเวณข้างร้าน 108 ช็อป และได้จดเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุไว้ได้ นอกจากนี้กล้องวงจรปิดยังจับภาพของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน คาดว่าเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ ต.หนองขาม เนื่องจากพบเห็นหน้าอยู่บ่อยจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมตัว

หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวนายอนุรักษ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน งขฉ-129 ชลบุรี ได้ที่บริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ หมู่11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนขยายผลจับกุม นายชัยยุทธ สังข์สวัสดิ์ อายุ 26 ปี พร้อมรถ จยย. ฮอนด้าเวฟ 100 สีแดง หมายเลขทะเบียน คงน-239 ชลบุรี ที่ใช้ก่อเหตุงัดตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ และนายอธิบดี สมจิตร อายุ 24 ปี ที่ร่วมกันก่อเหตุ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวนนายชัยยุทธฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือใช้เหล็กแป๊ปงัดตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ที่ผ่านมาได้ก่อเหตุในพื้นที่ ต.บึง งัดตู้น้ำดื่มจำนวนทั้งหมด 7 ตู้ ส่วนเพื่อนทั้ง 2 คนจะคอยดูต้นทางให้ ตอนที่ก่อเหตุงัดตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ โดยจะได้เงินจากตู้ประมาณกว่า 200 บาทต่อตู้ ส่วนเหรียญที่ได้มาจะนำไปแลกตามร้านมินิมาร์ท ก่อนนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ

“ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากความคึกคะนอง เลียนแบบพฤติกรรมมาจากในทีวี ที่มีการงัดตู้น้ำดื่ม ซึ่งหลังก่อเหตุที่ตู้น้ำดื่มข้าง 108 ช็อป เสร็จไปเหลือบเห็นกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนหลังคา จึงได้ใช้เหล็กแปปเขี่ยกล้องให้หันไปทางอื่น แต่ไม่คาดคิดว่าจะเห็นหน้าตนเองและเพื่อน”  นายชัยยุทธฯ

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

คดียัดทารกใส่ถุง พบสาวต้องสงสัยร่ำไห้ในสถานีรฟ.

ตุลาคม 25, 2010 ใส่ความเห็น

ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิด ได้เค้าสาวนิรนามต้องสงสัย ร่ำไห้ในสถานีรถไฟบางซื่อ ใกล้จุดพบศพทารกใส่ถุง ขณะที่ประสาน สน.ใกล้เคียง ไม่มีแจ้งเด็กหาย…

จากกรณีพบศพเด็กชายวัย 6-7 เดือน ใกล้กับถังขยะ ตั้งอยู่ระหว่างห้องน้ำสาธารณะกับจุดรับส่งผู้โดยสารสายเหนือ-สายอีสาน สถานีรถไฟบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. สภาพศพตัวซีดแต่ยังอุ่นๆ ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย สวมผ้าอ้อมสำเร็จรูป และถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อกันฝนพลาสติกสีชมพู ซ่อนไว้ในถุงพลาสติกสีเขียว 2 ชั้นมัดปากถุงอย่างดี และใช้สกอตเทปใสพันปากถุงอย่างแน่นหนา มีถุงใส่ที่นอนยี่ห้อโลตัสใบใหญ่สวมทับอีกชั้น และมัดปากถุงเอาไว้อีกทบ เมื่อแกะออกมายังพบห่อข้าวเหนียวที่กินเหลือแล้วและเศษอาหารยัดใส่ไว้ด้วย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. พล.ต.ต. สุรพงศ์ ศิริภักดี ผบก.รฟ. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ดำรงค์ สว่างงาม ผกก.1 บก.รฟ. ถึงเหตุพบศพเด็กตายอย่างอุกอาจกลางสถานีรถไฟ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ดำรงค์ กับพวก มี พ.ต.ท.โอฬาร เอี่ยมประภาส สวญ.สน.รฟ.นพวงศ์ กับ พ.ต.ท.พิชิต ทีปกากร พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.รฟ.นพวงศ์ และกำลัง ออกเร่งระดมกำลังทั้งฝ่ายสอบสวนและฝ่ายสืบสวนโดยเร็วเพื่อคลี่คลายคดี โดยให้หาร่องรอยคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะวนเวียนอยู่แถวสถานีรถไฟหัวลำโพง ให้แสวงหาพยานหลักฐานเท่าที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อสืบสวนจับกุมและพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในชั้นสอบสวนและพิสูจน์ความผิดในชั้นศาล

ต่อมากำลังตำรวจนำโดย พ.ต.ท.โอฬาร เอี่ยมประภาส สวญ.สน.รฟ.นพวงศ์ กก.1 บก.รฟ ได้ออกสืบสวนหาข่าว เริ่มจากจุดที่พบศพที่นายสมพร มะลิ คนเก็บขยะมาแจ้งให้ ด.ต.ปรัชญา เศรษฐ์พงศ์กร ตำรวจรถไฟที่ออกตรวจพื้นที่ ว่ามีห่อขยะปริศนาถูกทิ้งไว้ น่าจะเป็นเหตุร้าย ซึ่งชุดแกะรอยคนร้ายได้ตรวจดูที่เกิดเหตุก็พบว่าบริเวณดังกล่าวมีทางเข้าออกหลายทาง อีกทั้งมีประชาชนเดินเข้าออกนาทีละหลายสิบคน แต่บริเวณดังกล่าวก็มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เหนือจุดทิ้งศพ เหนือจุดทางเดินเข้าออก และบริเวณชานชาลารวม 3 กล้อง และบันทึกภาพไว้อย่างสมบูรณ์ ตำรวจจึงเอาเทปบันทึกภาพก่อนเวลาพบศพดูย้อนขึ้นไปหลายชั่วโมงชนิดดูทีละเฟรม ในที่สุดก็พบว่ามีหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่งสูงประมาณ 165 ซม. ซึ่งมีร่องรอยพิรุธเป็นที่ผิดสังเกต โดยหญิงดังกล่าวเดินวนเวียนอยู่หลายครั้ง ลักษณะคล้ายคนกำลังกลัดกลุ้มครุ่นคิดอย่างหนัก ตำรวจจึงดึงภาพเพื่อดูหน้าในลักษณะประชิดก็พบว่า ในรูปหน้าที่เรียวงามนั้นกลับร้องไห้อย่างสุดระทมขมขื่นอยู่เป็นเวลานานอย่างไม่ทราบสาเหตุ

พ.ต.ท.โอฬารเผยความคืบหน้าว่า เบื้องต้นตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุบริเวณสถานีรถไฟบางซื่อแล้ว พบว่ามีผู้ต้องสงสัยเพียง 1 คน เป็นหญิงคนหนึ่งอายุระหว่าง 25-30 ปี วนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุและร้องไห้อีกด้วย ตำรวจพยายามดึงภาพออกมาให้พยานบุคคลหลายคนดูหน้าเผื่อจะมีคนรู้จัก แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน อาชีพอะไร และเกี่ยวข้องกับศพเด็กหรือไม่ ตำรวจกำลังตามตัวมาสอบสวน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเด็กทารกชาย ผลชันสูตรแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจยังไม่ส่งมาให้ คาดว่าอีก 2 วันน่าจะรู้ว่าถูกฆ่าตาย หรือตายมาก่อนแล้วซ่อนศพ นอกจากนี้ได้ประสานไปยัง สน.เตาปูน และ สน.ใกล้เคียง ยังไม่พบว่ามีการแจ้งความเด็กหาย หรือถูกลักพาตัว หากผู้ใดมีเบาะแส สามารถแจ้งเข้ามาที่ตำรวจรถไฟได้ตลอดเวลา

ที่มาของข่าว : ไทยรัฐออนไลน์

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

“อ้อม-พิยดา” รับอาททะเลาะแม่เด็กจริง ขู่เอาเรื่องคนแพร่คลิป

ตุลาคม 25, 2010 ใส่ความเห็น

ดาราสาว “อ้อม-พิยดา” ขู่คนแพร่คลิปวีดิโอ ระบุ ที่มาของคลิปฉาวเกิดจากปากเสียงระหว่าง “อาท” สามี กับแม่ของเด็ก 5 ขวบที่โรงภาพยนตร์จริง เผยมีโทรขู่ให้ถอดจากพรีเซนเตอร์โอเลย์…

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล (อัครเศรณี) ดารานักแสดงสาว เปิดเผยถึงกรณีที่มีคลิปภาพวีดิโอที่ตัวเองและ อาท-ศรา จุฑารัตนกุล ผู้เป็นสามี มีเหตุวิวาทกับแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ย่านสุขุมวิท จนทำให้เกิดประเด็นขึ้นมาว่า อ้อม ดาราชื่อดังถือสาหาความเด็ก 5 ขวบ ล่าสุด อ้อมพิยดาเปิดใจที่สตูดิโอมนตรี ลาดพร้าว 101 ขณะถ่ายทำซิทคอมบางรักซอย 9 โดยยืนยันว่า ไม่มีการใช้คำพูดหยาบคาบและอยากให้จบ หากไม่มีการกล่าวหาไปมากกว่านี้

อยากให้เล่าที่มาของเรื่องราววิวาทที่เกิดขึ้น?
“คือ มีน้องคนหนึ่งเดินมาโดนพี่อาท โดยตั้งใจหรือไม่ก็ไม่ทราบ พี่อาทตกใจ  พี่อาร์ทก็ว่า “เฮ้ยอะไร” แม่เขาไม่เห็นเหตุการณ์ตามภาพ น้องเขาก็ตกใจวิ่งมาหาแม่ แม่ก็รักลูกเห็นลูกตกใจ เด็กมาขอโทษ จากนั้นเรื่องมันก็เลยเถิดระหว่างผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ เขาก็เห็นอ้อม ก็บอกว่า “นี่มันดารานะ ฉันเป็นแฟนละครคุณอยู่” แต่ส่วนตัวก็ตอบไปว่า “ไม่เกี่ยวนะคะ” พี่อาทก็บอก “อาชีพก็ คือ อาชีพ ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”

เสียงไม่ปกติทั้งสองฝ่าย?
“เขา บอกฉันดูละครของคุณอยู่ อ้อมว่าไม่เกี่ยว เอาเป็นว่าทุกคนเห็นกันหมดแล้วว่าเกิดอะไร อ้อมว่าเราควรจะจบเรื่องนี้ คิดว่าเรื่องนี้มีปากเสียงผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ แล้วไม่อยากให้จบ ก็อยากให้อภัยกัน อ้อมถูกกล่าวอ้างว่า ไพร่ สถุล คำนี้ไม่ได้ออกมาจากปากอ้อม และพี่อาท ไม่ได้ว่าเด็กแน่นอน แต่มีปากเสียงกัน เกินเลย แต่ไม่ได้กังวล ทุกอย่างจบได้ที่เรา ให้อภัยเรื่องเกิดดีหรือไม่ดี ก็จบ อ้อมกับพี่อาท ก็โมโห ต่อมา ใช้สติ ว่าเราคิดอะไร”

การนำภาพวงจรปิดไปเผยแพร่จะฟ้องร้องไหม?
“ณ วันนี้ อ้อมถูกกล่าวอ้างต่างๆ หลายเรื่อง ถ้าเรื่องจบแคนี้ ก็ไม่ได้ทำอะไร ถ้าไม่จบก็คงปรึกษาผู้ใหญ่อีกที”

เรื่องคู่กรณีได้แจ้งความไว้เป็นเรื่องจริงไหม?
“อ้อม ได้คุยกับทางเมเจอร์ฯ ทราบมาว่าเขาไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ แต่ยังไม่มีหมายจาก สน.มาถึงอ้อม คือ เรื่องไม่เป็นเรื่องอยากให้ จบแค่นั้น แต่คลิปออกไปสู่สาธารณะที่เราไม่สามารถรู้ได้ อ้อม คิดว่าเป็นเรื่องของเมเจอร์ฯ เอง ที่จะเอาเรื่องทางกฎหมายภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ควรนำภาพไปเผยแพร่ อ้อมกับพี่อาท ก็ยังไม่คิดทำอะไรขึ้นไปมากกว่านี้ ถ้ามากกว่านี้ก็จัดการ”

อาทซีเรียสไหมกับเรื่องนี้ ?
“ไม่นะ จนถึงวันนี้ อ้อม เสียใจนะ”


เหตุที่ทะเลาะจริงๆ มาจากอะไร?
“คือ มันเริ่มจากที่เขาหันมาเห็นอ้อม ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกว่าเราเป็นแฟนละครของคุณ ต้องดูที่ว่าน้องมาโดนพี่อาท เด็กขอโทษแล้วจะเอาไรอีก เขาเห็นอ้อมเป็นดารา  เราก็บอก ไม่ได้เกี่ยวกับอาชีพนะ อาชีพไม่ได้เกี่ยวเรื่องนี้ พูดจากันไปมาก็เป็นเรื่อง”

มีพยาน?
“ตอนนี้ จากภาพวงจรปิด มีพนักงานหลายคนเห็น  มีรายชื่อหมด ให้การได้”

คำพูดหยาบคายมีไหม?
“ไม่มีคำหยาบคายต่างๆ ออกมาแน่นอน เราเป็นผู้หญิง ไม่มี”

มีจดหมายอ้างว่าเด็ก เห็นเลยยกขาเตะ แมลงสาบ?
“ไม่เห็นนะ จุดนี้ เขาขายป๊อบคอร์น ไม่น่าจะมีแมลงสาบตรงนั้น”

ทราบมาว่ามีการโทรศัพท์ให้ไปถอดจากพรีเซนเตอร์ โอเลย์ ?
“ไม่อยากจะไปว่าเขา แต่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง สินค้าเขาก็โทรหาอ้อม บอกว่าเห็นคลิปแล้ว ทุกคนพูดเสียงเดียวกันให้กำลังใจอ้อม มีแค่เสียงเดียวจะไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้น”

ผู้ใหญ่ในค่ายเอ็กแซ็กท์ว่าอย่างไร ?
“อ้อม บอกพี่ปริมไปแล้ว พี่เขาจะบอกพี่บอยเอง พี่บอยก็ถาม อ้อมจะเอายังไง อย่างที่บอก อยากรู้จักการให้อภัย อยากจบ เพราะไม่มีผลดีต่อใคร ไม่ว่าใครผิดหรือถูก ก็ดีนะ รู้จักให้อภัยกันก็ดี ปัจจุบันนี้ไม่รู้จะตามเขาได้ที่ไหน เขาไปแจ้งความเอาคลิปนี้ออกมาได้ ถ้าเรื่องจบลงแค่นี้ ถ้าอ้อมไม่ถูกกล่าวหามากกว่านี้ ก็คงไม่ทำไร ถ้ามากกว่านี้ก็อาจจะตัดสินใจ”

มีข่าวทำนองว่า ไปถือสาเด็กกับเรื่องแค่นี้?
“คิดว่าพี่อาทไม่ถือสา พี่เขาตกใจมากกว่า แล้วเขาบอกว่า ฉันดูละครของเธอ เธอเป็นดารา แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน หลังจากนั้นก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว ผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่มีปากเสียงกันแต่ พี่เขาไม่ได้ว่าเด็กเลย อ้อมมีหลาน สอนอะไรหลานเรารู้  ก็ไม่มีทางไปว่าเขาเพราะ ไม่ใช่ลูกหลานเรา จะไปว่าเขาไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็อีกเรื่อง”

มีข่าวว่าพ่อของเด็กมาขอโทษ?
“ก็เล่าให้เพื่อนฟัง เล่าหมด แต่ก็มีอีกคลิป เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น มีเรื่องราวต่างๆ แต่ก็ขอให้เก็บไว้ เอาให้พ่อเขาดูก็จะทราบ แต่ไม่ได้ขอโทษเรานะ อ้อมว่า ให้อภัย แล้วก็จบที่ตัวเรา”.

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

‘ชวน’ยันไม่เกี่ยว ประมูลCCTV รับรู้จักสาว’น’

ตุลาคม 25, 2010 ใส่ความเห็น

‘ชวน  หลีกภัย’ ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป. ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องประมูลกล้อง CCTV ศาล รธน. รับรู้จัก น.ส. ‘น’ มา 10 ปี เพราะเคยบริจาคเงินให้พรรค ขณะเดียวกันขอกำลังใจศาล รธน. ให้อยู่คู่ชาติ…

เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2553 นายชวน  หลีกภัย  ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  ยืนยันกับไทยรัฐออนไลน์ว่า ไม่ทราบเรื่อง และไม่เกี่ยวข้องกับกรณีของ น.ส. ‘น’ ที่มีส่วนพัวพันการประมูล กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ในศาลรัฐธรรมนูญมูลค่า 66 ล้านบาท แต่ยอมรับว่ารู้จักกันกับ น.ส. ‘น’ มานานกว่า 10 ปีแล้ว และสมาชิกในพรรคปชป. เองก็รุ้จักทั้งนั้น เพราะบุคคลคนนี้เคย บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์มาก่อนจริง แต่ น.ส.’น’ จะไปทำอะไรต่อจากนั้นตนไม่ทราบ

ทั้งนี้ นายชวนกล่าวว่า สถาบันศาลถือเป็นสถาบันหลักที่สำคัญของชาติบ้านเมือง ดังนั้นขอให้กำลังใจสถาบันศาล และขอให้ไม่หวั่นไหว ประชาชนคนไทยจะต้องช่วยกันรักษาสถาบันหลักของบ้านเมืองเอาไว้ให้ได้

ส่วนกรณีที่นายวิรัช  ร่มเย็น ส.ส. ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินสายร้องทุกข์กล่าวโทษนายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และฟ้อง นายพศิษฐ์  ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นสิทธิ์ของนายวิรัช สามารถกระทำได้ทันที หากเห็นว่าตามกฎหมายสามารถดำเนินการได้

อย่างไรก็ดี ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า พรรคไม่มีการวิ่งเต้นล้มคดีอยู่แล้ว เชื่อว่านายวิรัชก็เช่นกัน ความจริงก็เป็นความจริง

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized

ลอนดอน ศาลอังกฤษตัดสินจำคุกเจ้าชายซาอุ

ตุลาคม 22, 2010 ใส่ความเห็น

ลอนดอน-ศาลอังกฤษตัดสินจำคุกเจ้าชายซาอุ20ปี ฐานฆาตกรรมคนรับใช้ หลังกระทำทารุณทางเพศเหยื่อทาส
ศาลอาชญากรรมกลาง ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมีคำตัดสินเมื่อพุธ(20ต.ค.)ลงโทษเจ้าชายซาอุดบิน อับดุลอาซิส บิน นาซีร์ อัล ซาอุด พระราชนัดดา กษัตริย์อับอุดเลาะฮ์แห่งซาอุดีอาระเบีย จำคุกตลอดชีวิตและสั่งว่าจะต้องจำคุกเป็นเวลาอย่างน้อย20ปี จากความผิดในข้อหาฆาตกรรมนายบันดาร์ อับดุลลาซิส คนรับใช้ชายวัย32ปีที่โรงแรมแลนด์มาร์ก ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่15กุมภาพันธ์ หลังจากที่ได้กระทำทารุณทางเพศต่อผู้ตายอย่างยาวนานก่อนหน้านั้น
ผู้พิพากษา ได้กล่าวกับเจ้าชายที่เคยพยายามใช้เอกสิทธิ์การทูตคุ้มครองเมื่อตอนถูกจับกุมในครั้แรกว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ในประเทศนี้
    เจ้าชายซาอุด พระชนมายุ34พรรษา ซึ่ใต้ฤทธิ์ขอแชมเปญและค็อลเทล ได้ทำร้ายคนรับใช้วัย32ปีอย่างโหดเหี้ยม หลังจากทั้งสองกลับมาจากฉลองคืนวันวาเทนไลน์ สภาพศพของเหยื่อมีร่องรอยบาดเจ็บรุนแรงหลายแห่ง รวมทั้งถูกรัดคอและรอยกัดที่แก้มทั้งสองข้าง ซึ่งอัยการใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีกจิกรรมทางเพศมาเกี่ยวของกับการเสียชีวิตของเหยื่อ
  อัยการกล่าวว่าเจ้าชายทำร้ายเหยื่อซำซาก และมีสองครั้งครั้งที่ถูกจับภาพได้โดย กล้องวงจรปิดในลิฟต์ของโรงแรม ขณะที่พยานหลายคนได้ให้การต่อศาลว่า นายบันดาร์ ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงทาส

กล้องวงจรปิด , CCTV

หมวดหมู่:Uncategorized